10 ไอเดียงานรีโมต หางานรีโมตอย่างไร? อ่านได้ที่บทความนี้

แนะนำไอเดียงานรีโมต ทำงานที่บ้านได้แบบไม่ต้องไปเดินทาง สร้างรายได้เสริม หรือจะทำเป็นงานประจำก็ได้เช่นเดียวกัน

ถ้าเป็นเมื่อสิบยี่สิบปีก่อนนี้ คงไม่มีใครคาดคิดว่า แนวคิดการทำงานที่ใดก็ได้ตามต้องการ มันจะเป็นไปได้ แต่ด้วยความที่โลกมันเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน และเทคโนโลยีก็พัฒนาอย่างรวดเร็ว เรื่องที่ดูจะเป็นแค่แนวคิดใหม่ก็สามารถจะเกิดขึ้นได้ในยุค New Normal นี้เช่นกัน

สรุปเนื้อหาในบทความนี้ แสดง

งานรีโมตคืออะไร?

งานรีโมตหรืองานทางไกล ความจริงก็คือความหมายเดียวกับงานออนไลน์นั่นเอง งานรีโมตสามารถจะเป็นอาชีพที่สองที่สาม และช่วยเติมเต็มชีวิตของเราได้ ทั้งยังมอบโอกาสให้เราทำงานและหารายได้ไม่จำกัดอยู่กับสถานที่และเวลา บางคนอาจจะอยู่ในองค์กรที่ไม่ได้เอื้อให้เกิดโอกาสหรือการพัฒนาอะไรมากนัก ถ้าสนใจใฝ่หาโอกาส สามารถตัดขีดจำกัดออกไปให้เหลือน้อยที่สุด ก็ย่อมจะเห็นหนทางสร้างรายได้เพิ่มขึ้นมานั่นเอง

นอกจากนี้ งานรีโมตมักยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นวิธีการหรือเวลาที่ใช้ ทำให้จัดการได้ง่าย โดยเฉพาะถ้าเรามีภาระผูกพันในครอบครัว หรือมีบางงานที่อาศัยเวลา งานรีโมตก็อาจเป็นคำตอบที่ถูกต้อง หรือในช่วงเวลาที่โรคติดต่อระบาดเช่นทุกวันนี้ การมีงานที่ไม่ต้องพูดคุยติดต่อแบบตัวต่อตัวก็ย่อมปลอดภัยกว่าเช่นกัน

งานรีโมตมีงานอะไรบ้าง?

ในบทความนี้ เราได้รวบรวมรายชื่องานรีโมตอันยอดเยี่ยมที่เหมาะกับอาชีพและทักษะที่แตกต่างกันรวมทั้งสิ้น 10 ไอเดีย พร้อมวิธีการหาและเคล็ดลับในการทำงานจากที่บ้านไว้ให้แล้ว

1. ผู้พัฒนา (Developer)

ถ้าพูดถึงงานที่สามารถออนไลน์ได้ งานประเภทหนึ่งที่ต้องคิดถึงประเภทแรกเลยนั่นคืองานในแวดวงการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นวิศวกร นักพัฒนาแอป เกม หรือพวก Full-Stack Developer ต่างๆ พวกนี้สามารถทำงานรีโมตได้ทั้งหมด

ไม่เพียงแต่บทบาทของนักพัฒนามักจะอยู่ห่างไกลกันเท่านั้น แต่ยังมีความต้องการอย่างมากสำหรับตำแหน่งเหล่านี้ ทำให้บทบาทเหล่านี้เป็นงานทางไกลอันดับต้นๆ ด้วยเหตุนี้ งานระยะไกลในขอบเขตการพัฒนาไม่ได้หมายถึงการทำงานในบริษัทที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักหรือถูกลดเงินเดือน อันที่จริงมันอาจหมายถึงตรงกันข้าม

ธุรกิจด้านนี้เติบโตขึ้นทุกวัน ความต้องการ Developer และวิศวกรก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น หากเรายังไม่เชี่ยวชาญพอก็ควรต้องเสริมทักษะให้แน่นซึ่งก็หลายที่ก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วยซ้ำ 

2. นักแปล (Translator)

โลกที่เชื่อมต่อกันทั่วทุกมุมโลกทำให้ความต้องการนักแปลมีมากขึ้น ธุรกิจต่างๆ ล้วนกระตือรือร้นที่จะอุดช่องว่างด้านการสื่อสาร นักแปลจึงสามารถทำงานได้หลากหลายบทบาท ไม่ว่าจะเป็นงานทดสอบเว็บไซต์ งานแปลเอกสาร ไปจนถึงงานพิสูจน์อักษร

งานนี้จำเป็นต้องใช้ทักษะทางภาษาที่ค่อนข้างสูงอย่างน้อย 2 ภาษา ยิ่งเชี่ยวชาญมากภาษาก็ยิ่งจะมีโอกาสเข้ามามากขึ้น อย่างไรก็ดี แม้สามารถสื่อสารได้อย่างน้อย 2 ภาษาก็สามารถทำงานรีโมตเป็นนักแปลได้แล้ว

3. นักออกแบบ (Designer)

นอกเหนือจากสายเทคแล้ว อีกแวดวงอย่างนักออกแบบที่เปี่ยมทักษะก็สามารถจะหางานรีโมตที่หลายบริษัทต้องการได้เช่นกัน งานรีโมตพวกนี้ก็เช่น งานออกแบบธีม งานออกแบบ UX/UI งานพวกนี้ก็สามารถทำงานทางไกลได้เช่นเดียวกัน

คนจะเป็นนักออกแบบได้ต้องมีความรู้ที่หลากหลาย ซึ่งก็สามารถสร้างเสริมความเชี่ยวชาญได้เองจากหลายเครื่องมือฟรี สายงานนี้ค่อนข้างมั่นคง จึงเป็นอาชีพสำหรับงานรีโมตที่น่าสนใจยิ่ง 

4. นักข่าว/นักเขียน (Journalist/Writer)

ในยุคที่งานนักข่าวสามารถทำที่บ้านได้ คนที่จะเป็นนักข่าวสายนี้คงต้องมีทักษะการหาข้อมูลและมีความรู้รอบด้าน พร้อมทั้งมีความสามารถในด้านการเขียนควบคู่ไปด้วย อย่างไรก็ดี หากเรายังไม่ได้เก่งขนาดนั้น ก็อาจเริ่มต้นด้วยงานเขียนคอนเทนต์ออนไลน์ประเภทต่างๆ ลงบนเว็บไซต์ไปก่อน ซึ่งก็จะช่วยพัฒนาฝีมือการเขียนและสร้างพอร์ตโฟลิโอเพื่อเปิดโอกาสให้กับงานในอนาคต

5. ผู้ประกอบการ (Entrepreneur)

ดูจะเป็นงานรีโมทที่แตกต่างไปจากงานอื่นอยู่สักหน่อย เพราะนี่มันเป็นงานที่เราทำให้กับตัวเอง แทนที่จะทำเพื่อองค์กรหรือบริษัท หลายครั้งที่เราค้นหางานที่เหมาะกับตัวเราแล้วไม่อาจพบ บางทีอาจต้องหันมาหาอะไรที่สร้างขึ้นด้วยตัวเองแล้วก็เป็นได้

การเริ่มต้นเป็นผู้ประกอบการนั้นไม่ได้มีไว้สำหรับคนที่หัวใจอ่อนแอ ไม่ใช่งานที่มีเวลาเข้าออกเหมือนงานออฟฟิศ แต่เป็นงานที่จะให้รางวัลตอบแทนเราอย่างมากมาย คนที่มีเชื่อมั่นในธุรกิจจะผลักดันและทุ่มเทจนประสบผลสำเร็จ การเริ่มต้นธุรกิจนั้นจะสอนให้เรามีหลากหลายทักษะและทำให้ทักษะของเราเฉียบคมยิ่งขึ้น

6. HR Onboarding Specialist

งานนี้จำเป็นต้องใช้ประสบการณ์ในการสรรหาบุคคล ถ้าเคยทำงาน HR มาก่อนก็นับว่าสนใจ งานนี้มักเกี่ยวข้องกับการค้นหาและคัดเลือก ทั้งแนะนำผู้สมัครงานให้กับบริษัทน้อยใหญ่ พร้อมให้คำแนะนำกับเหล่าผู้สมัครงานมือใหม่ทั้งหลาย ไม่ว่าบริษัทไหนก็คงต้องการคนช่วยหาพนักงานใหม่ด้วยกันทั้งนั้น 

7. ผู้จัดการด้านโซเชียลมีเดีย (Social Media Manager)

ใครที่มุ่งหมายจะค้นหางานด้านการตลาดที่ทำให้เราได้ใช้ทักษะด้านโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นบน Twitter, Facebook หรือ Instagram ควรต้องพิจารณางานผู้จัดการด้านโซเชียลมีเดียกันดู

ตำแหน่งผู้จัดการโซเชียลมีเดียสามารถทำได้จากที่บ้านเมื่อคุณสื่อสารกับทีมของคุณผ่านการแชทหรืออีเมล และกำหนดเวลาโพสต์ด้วยเครื่องมือที่ทำงานออนไลน์ การมีความเข้าใจอย่างดีเยี่ยมเกี่ยวกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ และเนื้อหาใดที่ใช้ได้ผลหรือไม่ได้ผลนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น อย่างไรก็ตาม คุณสามารถสร้างทักษะเหล่านี้ได้ตลอดเวลา เริ่มต้นด้วยการช่วยเหลือบริษัทเล็กๆ แล้วใช้ประสบการณ์นั้นเพื่อทำงานกับธุรกิจที่ใหญ่กว่า

8. นักการตลาดออนไลน์ (Online Marketer)

หลายครั้งที่ผู้ขายสินค้าพบว่า ตนมองหาลูกค้าของตนได้ยากเย็น จนส่งผลให้ยอดขายไม่เป็นตามเป้า คำตอบอาจอยู่ที่การหานักการตลาดออนไลน์มาช่วยเหลือ การตลาดออนไลน์เป็นคำที่หมายรวมถึงหลายทักษะในด้านการตลาด ไม่ว่าจะเป็น SEO, SEM, การตลาดแบบพันธมิตร (affiliate marketing), การสร้างคอนเทนต์ทางการตลาด หรือการตลาดผ่านอีเมล

งานรีโมตที่ว่าด้วยการตลาดออนไลน์จึงเป็นงานที่เริ่มต้นได้ง่าย ด้วยเพราะไม่ต้องการความรู้ความเชี่ยวชาญเรื่องอุปกรณ์มากนัก มีพื้นที่อันหลากหลายให้เราได้สร้างโอกาส ทั้งจะช่วยพัฒนาและเสริมทักษะให้เชี่ยวชาญขึ้นในพื้นที่ของเราเองได้ด้วย

9. ผู้ช่วยเสมือน (Virtual Assistant)

งานนี้น่าจะเป็นแนวงานรีโมตแบบพาร์ตไทม์ เป็นงานที่พร้อมจะช่วยจัดระเบียบให้กับผู้ประกอบการและธุรกิจต่างๆ เป็นหนึ่งในงานรีโมตที่ช่วยบรรเทาแรงกดดันของคนอ่นๆ ด้วยการทำงานที่เรียบง่ายแต่กินเวลาพอสมควร

งานผู้ช่วยเสมือนอาจรวมไปถึงหน้าที่การดูแลลูกค้า ไม่ก็การทำคำสั่งซื้อของลูกค้าให้เสร็จสิ้น ทั้งยังอาจต้องคอยอัปเดตข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ บนเว็บไซต์ หรือแม้แต่จัดการตารางงาน คนจะทำงานนี้จึงจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบสูง จัดระเบียบตัวเองได้ และยังมีทักษะการสื่อสารที่ดีเยี่ยม ผู้ช่วยเสมือนไม่ต้องทำแบบฟูลไทม์ซึ่งทำให้เวลางานค่อนข้างยืดหยุ่น ยิ่งเรามีข้อจำกัดด้านเวลา งานนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในงานรีโมตที่เหมาะอย่างยิ่ง

10. ฝ่ายบริการลูกค้า (Customer Support)

หากคุณมีวิธีการร่วมกับผู้คนและรักการทำงานเพื่อแก้ปัญหา บทบาทการสนับสนุนลูกค้าเป็นหนึ่งในงานทางไกลที่เหมาะกับคุณ การทำงานในบทบาทนี้กำหนดให้คุณต้องใช้ซอฟต์แวร์การโทรหรือแชทเพื่อตอบคำถามของลูกค้าและแก้ไขปัญหา

งานนี้น่าจะเหมาะกับใครที่ชอบติดต่อกับผู้คน และชอบแก้ไขปัญหา การทำงานรีโมตปประเภทนี้จำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์สำหรับการโทรหรือแชทเพื่อใช้ตอบคำถามและแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้

สิ่งที่ต้องมีแน่ๆ ในสายงานนี้ก็คือ ทักษะอันยอดเยี่ยมในการติดต่อสื่อสาร และเรียนรู้เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการได้ไว งานดูแลลูกค้าบางงานอาจเป็นตำแหน่งที่ทำเต็มเวลา ขณะที่บางที่อาจเป็นงานพาร์ทไทม์ ทำสุดสัปดาห์หรือทำเฉพาะช่วงเย็น ทำให้ง่ายต่อการสะสางภาระต่างๆ มากกว่า


จะหางานรีโมตได้ที่ไหนบ้าง?

remote working งานรีโมต

หลังจากอ่านรายชื่องานที่แนะนำไปข้างต้น หลายคนน่าจะมีไอเดียงานรีโมตที่เหมาะกับตนเองกันบ้างแล้ว แต่คำถามถัดมาก็คือ แล้วจะหางานรีโมตได้อย่างไรกัน หรือแม้แต่เกิดปัญหาว่า จะไปหาที่ไหนกันดี

ความจริงแล้ว ในบ้านเรามีหลายเว็บเลยทีเดียวที่ผุดขึ้นมาเพื่อให้คนสามารถหางานที่สามารถทำออนไลน์โดยเฉพาะ และจากนี้คือตัวอย่างของเว็บไซต์ที่ให้บริการเหล่านั้น

Fastwork

ที่นี่จะมีงานให้เลือกหลากหลายได้ตามความถนัด มีตั้งแต่งานเขียนบทความ ถ่ายรูป ออกแบบกราฟิก ทำคอนเทนต์-แอดมินเพจ พัฒนาเว็บ/แอป ไปจนกระทั่งงานแปลภาษา

FreelanceBay

หนึ่งในเว็บไซต์ตัวกลางระหว่างฟรีแลนซ์และผู้ว่าจ้าง ด้วยจำนวนผู้ว่าจ้างกว่า 2 หมื่นราย ไม่ว่าจะเป็นคนที่ทำงานฟรีแลนซ์และคนที่ต้องการหารายได้เสริม ก็สามารถจะสร้างโปรไฟล์ส่วนตัวและรายละเอียดผลงานทิ้งไว้ได้ ตอนนี้มีฟรีแลนซ์ใช้งานอยู่ราว 7 หมื่นกว่าคนแล้ว

Thai Freelance Agency

อีกหนึ่งเว็บไซต์หาฟรีแลนซ์ที่ทำตัวเป็นสื่อกลางระหว่างฟรีแลนซ์และผู้ว่าจ้าง มีฟรีแลนซ์เข้ามาใช้บริการมากมาย ขณะเดียวกันก็รวบรวมผู้ว่าจ้างที่มีงานหลากแนวหลายสายให้เลือกตามที่เหมาะกับตนเอง

Upwork

ที่นี่เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมสูง สร้างขึ้นมาสำหรับเหล่าฟรีแลนซ์ระดับโลก มีผู้ว่าจ้างจากต่างประเทศมากมายอยู่ในนั้น คนที่เลือกใช้งานที่นี่จะมีโอกาสได้ทำงานประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการตลาด งานออกแบบหรือพัฒนาเว็บ กับบริษัทหรือแบรนด์มีชื่อมากมาย

Freelancer

อีกหนึ่งบริการตัวกลางระหว่างเหล่าผู้ว่าจ้างและฟรีแลนซ์ ที่รวบรวมหลายหลากสายงานจากทั่วโลก จึงมีผู้ใช้งานอยู่เป็นจำนวนมาก ใครที่ต้องการรับงานจากต่างประเทศ เว็บนี้น่าจะเหมาะอย่างยิ่ง


เคล็ดลับอย่างง่ายๆสำหรับการทำงานรีโมต

เมื่อใดที่มีความคิดจะทำงานรีโมต มีบางสิ่งที่ต้องสนใจถ้าคิดจะซื้อห้องมาทำโฮมออฟฟิศ ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้จะบอกหนทางง่ายๆ ที่จะทำให้การทำงานรีโมตไม่ใช่เรื่องยากที่จะเริ่มต้นอีกต่อไป

ทำอะไรเป็นรูทีน

การทำงานที่บ้านอาจต้องพึ่งพาการรู้จักปรับตัวเพื่อหลุดออกจากโหมดอยู่บ้านให้กลับเข้าสู่โหมดทำงานแม้จะยังนั่งอยู่ในบ้านเหมือนเดิมให้ได้ อาจสร้างช่วงเวลาคั่นกลางสักอย่าง เช่นเดินออกไปสูดอากาศและเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับเริ่มงานในแต่ละวัน เป็นต้น

ใช้เวลางานเหมือนอยู่ในออฟฟิศ

การใช้ช่วงเวลาเดียวกันกับคนที่ทำงานออฟฟิศน่าจะช่วนในหลายๆ อย่าง อย่างน้อยก็ช่วยรักษาสภาวะการทำงานไม่ให้นานเกินกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน ทั้งเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถจะทำได้โดยไม่เหนื่อยหนักเกินไป แต่สำหรับบางงานก็อาจจำเป็นต้องปล่อยให้เวลาทำงานมันอิสระ แต่อย่างน้อยก็พยายามรักษาสมดุลให้ดีระหว่างเวลางานและเวลาของการใช้ชีวิต เรื่องนี้ยังถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่งอยู่

มีกำหนดเวลาพัก

ในช่วงเวลาทำงานนั้น จำเป็นยิ่งที่จะต้องมีช่วงเวลาพักบ้าง เพื่อไปรีชาร์จหรืออะไรก็แล้วแต่ ประสิทธิภาพในการทำงานจะลดลงเมื่อเรารู้สึกเหนื่อยล้าหรือหมดไฟ อาจพักไปดื่มกาแฟ เดินเล่น พูดคุย หรือหันเหความสนใจไปกับสิ่งอื่น ช่วยรีเซ็ตสมองและทำให้รู้สึกสดชื่นเพื่อรับมือกับงานในช่วงถัดไปของวัน

จัดพื้นที่เฉพาะสำหรับทำงาน 

การจัดพื้นที่เพื่อแยกเป็นสัดเป็นส่วน ระหว่างพื้นที่พักผ่อนกับพื้นที่ทำงานจะทำให้เกิดความชัดเจนว่าตอนไหนทำงาน ตอนไหนพัก การจัดพื้นที่นี้อาจรวมไปถึงโต๊ะ เก้าอี้นั่ง และอุปกรณ์สำนักงานอื่นๆ สิ่งเหล่านี้ อาจทำให้รู้สึกเมื่อล้มตัวลองนอนบนเก้าอี้ยาวหรือโซฟามีความผ่อนคลายมากขึ้น ถ้าที่บ้านมีเด็กๆ การมีพื้นที่เฉพาะจะทำให้เราสามารถเข้าไปยังพื้นที่ทำงานได้ทันทีเมื่อพี่เลี้ยงหรือสามี/ภรรยามาถึงบ้านแล้ว

รับอากาศบริสุทธิ์บ้าง

การทำงานแบบรีโมต คือ การใช้พื้นที่ในบ้านเป็นสถานที่ทำงาน เมื่อจบงานในแต่ละวัน เราอาจจะรู้สึกเหมือนเราไม่ได้ออกไปไหนเลย สิ่งที่ควรทำ คือ การออกไปรับอากาศบริสุทธิ์ หรือเปลี่ยนสถานที่เปลี่ยนมุมไปบ้าง ออกไปนอกตัวบ้าน พบเจอกับแสงแดด หรืออากาศภายนอกบ้างเพื่อลดความจำเจ

หาโอกาสในการพักผ่อนให้กับตัวเอง

หลายๆ บริษัทที่เปิดรับคนทำงานรีโมตมักจะจัดการพบปะของคนในทีมในสถานที่แปลกใหม่ ไม่เพียงเราจะได้ไปเที่ยวในที่แปลกใหม่ แต่ยังได้พบปะกับผู้คนที่เคยร่วมงานกันมาด้วย วันหยุดจึงกลายเป็นช่วงเวลาในการสร้างมิตรภาพกับเพื่อนร่วมงาน น่าตื่นเต้นไม่น้อย เมื่อคนที่เคยได้แต่ร่วมงานกันผ่านหน้าจอ วันหนึ่งได้พบตัวจริง แถมยังอยู่ในสถานที่แปลกใหม่ด้วยอีก มันอาจเป็นทั้งทริปท่องเที่ยวที่แสนสนุก เติมพลัง และความสดชื่นให้กลับมาหลังเหน็ดเหนื่อยยาวนานก็ได้


บทความที่เกี่ยวข้อง

ความเห็น

Get the best of The Finth in your inbox.

You may opt-out anytime by clicking “unsubscribe” from the newsletter or from your account. Contact The Finth at any time.